3 เหตุผลที่คนอายุ 40+ ควรส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยไม่ต้องรอให้มีอาการ

มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 3 ของคนไทย ซึ่งหลายคนมักเจอโรคในระยะที่อาการหนักแล้ว เพราะไม่เคยตรวจคัดกรองด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวหรือจะตัดสินใจส่องกล้องก็ต่อเมื่อมีอาการปวดท้องมากผิดปกติและถ่ายเป็นเลือด ซึ่งการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ควรตรวจตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ด้วยเหตุผล 3 ข้อดังนี้

  1. มะเร็งลำไส้ใหญ่พบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ฉะนั้นควรตรวจคัดกรองมะเร็งทุกๆ 5 ปีแต่ถ้ามีญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ควรตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุกๆ 3-5 ปี
  2. หากรอจนมีอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายมีมูกเลือด ท้องผูก ปวดเบ่งถ่ายตลอดเวลา อุจจาระน้อย หรือเล็กลง ส่วนใหญ่มักเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะที่รุนแรงแล้ว มีความเสี่ยงสูงที่จะชีวิต
  3. การส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ดี เพราะหากพบติ่งเนื้อหรือ Polyp ที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็สามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก และมีโอกาสหายขาดสูง

การส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากเป็นการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้แล้ว ยังสามารถตรวจหาโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ทั้งนี้ ควรเข้ารับการส่องกล้องทางเดินอาหารอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ และควรตรวจกับแพทย์ที่มีความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีการส่องกล้อง เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วตามแนวทางที่เหมาะสม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์ศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โทร. 02-7340000 ต่อ 2715, 2716

Related Posts

ตุลาคม 11, 2024

“มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ” ภัยเงียบในหัวใจที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

โรคมะเร็งเป็นภัยคุกคามทางสุขภาพที่หลายคนทราบกันดี แต่สำหรับโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจนั้น เป็นโรคที่พบได้ยากและมีข้อมูลน้อยมาก

ธันวาคม 19, 2023

TACE เคมีบำบัดทางหลอดเลือด ทางเลือกในการรักษามะเร็งตับตรงจุด

โรคมะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ผู้ป่วยมะเร็งตับมักจะมาพบแพทย์เมื่อมีอาการมากแล้วหรือเป็นระยะท้ายของโรค ขนาดของก้อนมะเร็งเมื่อตรวจพบมักโตเกินกว่าจะผ่าตัดได้

พฤษภาคม 18, 2023

เป็น ”นิ่วในถุงน้ำดี” แต่ไม่รีบรักษา มีความเสี่ยงเป็น “มะเร็ง” มากกว่าคนทั่วไป

อาการปวดท้องบริเวณด้านขวาบน มักเป็นอาการเสี่ยงของโรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งหลายคนเมื่อตรวจเจอแล้ว อาจยังไม่รีบรักษาเพราะคิดว่าอาการปวดที่เป็นยังไม่รุนแรง แต่การเก็บนิ่วในถุงน้ำดีไว้กับตัว นอกจากอาจจะเกิดถุงน้ำดีอักเสบหรือท่อน้ำดีอักเสบในอนาคตแล้ว คนที่มีนิ่วในถุงน้ำดีที่ขนาดใหญ่ยังมีความเสี่ยงเป็น “โรคมะเร็งถุงน้ำดี” มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก แต่มีอัตราการการรอดชีวิตต่ำ เนื่องจากในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อตรวจพบมักจะเข้าสู่ระยะ 3 และ 4 ซึ่งมีการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นแล้ว

ที่ตั้งและการเดินทาง​ ที่ตั้งและการเดินทาง​

 

วิธีการเดินทาง

ค้นหาเราบนแผนที่
 

การติดต่อและนัดหมาย​

[email protected]
 

บริการฉุกเฉิน​

เบอร์โทรติดต่อ : 02-734-0000