มะเร็งปอดไม่สูบก็เสี่ยง

ถึงแม้ว่าปัจจัยหลักของการเกิด “มะเร็งปอด” จะมาจากการสูบบุหรี่ แต่ใช่ว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่จะไม่มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้

ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งปอดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  • ปัจจัยภายในที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กรรมพันธุ์ หรือพันธุกรรม
  • ปัจจัยภายนอกซึ่งสามารถควบคุมได้ เช่น บุหรี่ สารเคมี เป็นต้น

โดยปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปอดได้แก่

  1. บุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 20 ถึง 30 เท่า โดยสารในบุหรี่นั้น มีประมาณ 60 ชนิดที่เป็นสารพิษและก่อมะเร็ง แม้ว่าหยุดสูบไปแล้วแต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่
  2. แร่ใยหิน ซึ่งอยู่ในวัตถุไวไฟ แผ่นกันความร้อนตามอาคาร ฉนวนบางชนิด อุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นต้น การสูดดมเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด
  3. ก๊าซกัมมันตรังสี หรือก๊าซเรดอน (Radon) เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น สามารถพบได้ตามแหล่งดินและหินในธรรมชาติ หรือบริเวณที่มีแร่ยูเรเนียม โดยจะระเหยขึ้นมาจากพื้นดิน ก๊าซนี้จะทำอันตรายต่อปอด
  4. สารอื่น ๆ เช่น โครเมียม นิกเกิล ฝุ่นจากอุตสาหกรรมหนัก ไอสารระเหยน้ำมัน เขม่าควันต่าง ๆ รวมถึงมลภาวะทางอากาศที่ไม่บริสุทธิ์
  5. โรคเกี่ยวกับปอด ผู้ที่เป็นวัณโรคปอด จะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอดมากขึ้น โดยจะเกิดที่บริเวณรอยแผลเป็นจากเชื้อวัณโรคปอด

ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในรายที่มีปัจจัยเสี่ยง โดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิดปริมาณรังสีน้อย (Low Dose CT Scan) ถ้าหากตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากปล่อยให้ ก้อน หรือ จุด ในปอดโตขึ้น มะเร็งจะลุกลาม และยากต่อการรักษา และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์มะเร็ง
โทร. 02-734-0000 ต่อ 2720

Related Posts

ตุลาคม 11, 2024

“มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ” ภัยเงียบในหัวใจที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

โรคมะเร็งเป็นภัยคุกคามทางสุขภาพที่หลายคนทราบกันดี แต่สำหรับโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจนั้น เป็นโรคที่พบได้ยากและมีข้อมูลน้อยมาก

ธันวาคม 19, 2023

TACE เคมีบำบัดทางหลอดเลือด ทางเลือกในการรักษามะเร็งตับตรงจุด

โรคมะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ผู้ป่วยมะเร็งตับมักจะมาพบแพทย์เมื่อมีอาการมากแล้วหรือเป็นระยะท้ายของโรค ขนาดของก้อนมะเร็งเมื่อตรวจพบมักโตเกินกว่าจะผ่าตัดได้

พฤษภาคม 18, 2023

เป็น ”นิ่วในถุงน้ำดี” แต่ไม่รีบรักษา มีความเสี่ยงเป็น “มะเร็ง” มากกว่าคนทั่วไป

อาการปวดท้องบริเวณด้านขวาบน มักเป็นอาการเสี่ยงของโรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งหลายคนเมื่อตรวจเจอแล้ว อาจยังไม่รีบรักษาเพราะคิดว่าอาการปวดที่เป็นยังไม่รุนแรง แต่การเก็บนิ่วในถุงน้ำดีไว้กับตัว นอกจากอาจจะเกิดถุงน้ำดีอักเสบหรือท่อน้ำดีอักเสบในอนาคตแล้ว คนที่มีนิ่วในถุงน้ำดีที่ขนาดใหญ่ยังมีความเสี่ยงเป็น “โรคมะเร็งถุงน้ำดี” มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก แต่มีอัตราการการรอดชีวิตต่ำ เนื่องจากในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อตรวจพบมักจะเข้าสู่ระยะ 3 และ 4 ซึ่งมีการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นแล้ว

ที่ตั้งและการเดินทาง​ ที่ตั้งและการเดินทาง​

 

วิธีการเดินทาง

ค้นหาเราบนแผนที่
 

การติดต่อและนัดหมาย​

[email protected]
 

บริการฉุกเฉิน​

เบอร์โทรติดต่อ : 02-734-0000